"อดีตสารวัตร" พ่อเหยื่อ 7 ตำรวจจราจรรุมยำ รับไม่ได้ หลังดูวงจรปิด เผยลูกยังสาหัส
"อดีตสารวัตร" พ่อเหยื่อ 7 ตำรวจจราจร รุมยำ รับไม่ได้หลังดูภาพวงจรปิด ลั่นไม่ใช่ยุทธวิธีตำรวจ เผยอาการลูกยังสาหัส
วานนี้ (5 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ สน.บางเขน พ.ต.ท.ธนชัย เกิดศรี อายุ 60 ปี อดีต สว.กก.2 บก.ปทส.เกษียณราชการเมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบิดาของ นายธนานพ อายุ 33 ปี ผู้เสียหาย เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม กับ พ.ต.ต.กันตพัฒน์ ประเศรษฐสุด สว.(สอบสวน) สน.บางเขน กรณีลูกชายถูก 7 ตำรวจ บก.จร.รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส
พ.ต.ท.ธนชัย เปิดเผยว่า วันนี้ตำรวจได้เรียกตนให้พาไปชี้จุดเกิดเหตุ และดูภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ รวมถึงสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบภาพวงจรปิดพบเห็นขณะเกิดเหตุกลุ่มตำรวจทั้ง 7 นายได้มี การใช้ความรุนแรง และไม่ได้ปฏิบัติตามยุทธวิธีของตำรวจ
ซึ่งหากในวันนี้ตำรวจทั้ง 7 นายเดินทางมามอบตัว ตนเองก็ยังไม่อยากที่จะพบเจอหรือพูดคุย โดยหลังเกิดเหตุตนไม่ได้รู้สึกโกรธแค้น หรือมีความบาดหมางส่วนตัว แต่เรื่องของคดีความก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย
พ.ต.ท.ธนชัย กล่าวว่า สำหรับอาการของลูกชายขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลวิภาวดีเบื้องต้น ยังมีอาการสาหัส โดยเฉพาะ อาการบาดเจ็บของดวงตาและศีรษะ ซึ่งหลังจากนี้ทางแพทย์จะต้องสแกนสมอง เพื่อตรวจสอบความผิดปกติอย่างละเอียดอีกครั้ง
7 ตำรวจจราจร มอบตัวแล้ว ก่อนถูกปล่อยตัวชั่วคราว
ต่อมาเมื่อเวลา 22.48 น. ของวันเดียวกัน ตำรวจสังกัดกองบังคับการตำรวจจราจร ทั้ง 7 นาย ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกชายอดีตตำรวจทยอยเดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน โดยตำรวจทั้ง 7 นาย ต่างใช้ยานพาหนะ ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ในการเดินทางมา ก่อนจะใช้ประตูด้านหลัง สน.บางเขน ขึ้นไปพบพนักงานสอบสวนที่รออยู่ชั้น 2
พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางเขน เปิดเผยว่า ตำรวจทั้ง 7 นาย ได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนครบทุกคนแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นการสอบปากคำ เพื่อเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย
ส่วนพยานหลักฐานขณะนี้ทางตำรวจได้คลิปจากกล้องวงจรปิดณจุดเกิดเหตุครบถ้วน เหลือเพียงต้องกลับไปสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติม เพื่อให้ช่วยยืนยันตัวตำรวจแต่ละราย รวมถึงลักษณะการก่อเหตุและ ระหว่างก่อเหตุได้มีการพูดคุยอะไรบ้าง ซึ่งยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ส่วนกรณีที่ครอบครัวของผู้เสียหายทองว่าคดีนี้อาจเข้าข่ายตวามผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายนั้นอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนประเด็นที่ทางครอบครัวต้องการเห็นภาพจากกล้องบอดี้แคมของตำรวจขณะปฎิบัติหน้าที่นั้น ทางพนักงานสอบสวนได้ประสานไปยัง กองบังคับการตำรวจจราจรเพื่อขอดูภาพดังกล่าวแล้ว
ผู้กำกับการสถานีตำรวจบางเขน เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้น ขณะที่ตำรวจกองบังคับการจราจร ตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.บางเขน แต่การทำร้ายร่างกายผู้เสียหายนั้น เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจโคกคราม
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สน.บางเขนจะเป็นผู้รับผิดชอบสำนวนที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา ก่อนจะส่งมอบสำนวนให้ สน.โคกครามดำเนินการต่อ แต่เนื่องจากคดีนี้มีความผิดตามมาตรา 157 ฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงต้องส่งสำนวนคดีไปให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นผู้พิจารณาชี้มูลความผิด และส่งสำนวนกลับมาให้ตำรวจส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ส่วนการดำเนินการทางวินัย ทางกองบังคับการตำรวจจราจรอยู่ระหว่างการพิจารณาโทษความผิดตามวินัยร้ายแรง
สำหรับตำรวจทั้ง 7 นาย วันนี้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ รวมถึงยังมีประเด็นที่ต้องสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติม ทำให้หลังจากสอบปาเสร็จสิ้น ทั้งหมดจะถูกปล่อยตัวชั่วคราว
โดยในเวลา 01.18 น. (6 ธ.ค.) พนักงานสอบสวน สน. บางเขน ได้ปล่อยตัวชั่วคราวตำรวจสังกัดกองบังคับการตำรวจจราจร ทั้ง 7 นาย หลังสอบปากคำเสร็จ